
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบราวน์ใช้เครื่อง MRI สแกนสมองของเด็กทารกอายุต่ำกว่า 4 ปี พบว่าเด็กทารกที่กินนมแม่ล้วน ๆ อย่างน้อย 3 เดือน มีพัฒนาการทางสมองดีกว่า ทารกที่กินนมแม่ร่วมกับนมผสม ส่วนทารกที่กินนมผสมล้วน ๆ มีพัฒนาการทางสมองแย่ที่สุดใน 3 กลุ่ม
นี่ไม่ใช่งานวิจัยชิ้นแรกที่แสดงว่าการให้ทารกกินนมแม่ส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสมองของทารก แต่เป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่ทำการศึกษาในเด็กที่มีอายุน้อย ๆ ขนาดนี้ นักวิจัยต้องการทราบว่า ผลของการให้ทารกกินนมแม่ที่มีต่อพัฒนาการทางสมอง เกิดขึ้นเร็วแค่ไหน ซึ่งผลการวิจัยแสดงว่า เกิดขึ้นแทบจะในทันที
ภาพจากเครื่องสแกน MRI พบว่าเด็กที่กินนมแม่ มี white matter (เส้นใยประสาทซึ่งเชื่อมต่อส่วนต่าง ๆ ของสมอง) มากกว่าเด็กที่กินนมผสมประมาณ 20-30% เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่เราเห็นความแตกต่างมากขนาดนั้นในเวลาในช่วงอายุไม่กี่ปี
นักวิจัยยังสอบทานผลการวิจัยโดยทำการทดสอบการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานกับเด็กที่โตกว่า พบว่าเด็กที่กินนมแม่มีทักษะทางภาษา การมองเห็น และการเคลื่อนไหวที่ดีกว่าเด็กที่กินนมผสมร่วมกับนมแม่ และเด็กที่กินนมผสมอย่างเดียว
นักวิจัยศึกษาผลของระยะเวลาในการให้กินนมแม่ด้วย เมื่อเปรียบเทียบทารกที่กินนมแม่เกิน 1 ปี กับทารกที่กินนมแม่น้อยกว่า 1 ปี พบว่าทารกกลุ่มแรก มีการเจริญเติบโตของสมองมากกว่า โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกาย
นับเป็นอีกหนึ่งงานวิจัย ที่สรุปได้ว่า การให้ทารกกินนมแม่ดีกว่ากินนมผสมอย่างจริงแท้แน่นอน
https://news.brown.edu/articles/2013/06/breastfeeding